สระบุรีนิวส์(SARABURINEWS)
วันที่ 30 ธันวาคม 2567 ที่ บ้านแอมเพอริช เลขที่ 444 หมู่ 4 ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณ พระราชวัชรญาณรังษี เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี(ธรรมยุต)วัดพระพุทธแสงธรรม และ พระราชวชิระมงคลวิสิฐ์ เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี วัดมงคลชัยพัฒนา(พระอารามหลวง) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการบำเพ็ญกุศลอายุวัฒนมงคล 55 ปี คุณอธิปพัฒน์ อริยพิทักษ์เดชา ประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัท แอมเพอริชสโตน จำกัด โดยมีคุณแม่บุญส่ง แซ่ลิ้ม ครอบครัวอริยพิทักษ์เดชา , คุณสุวรรณ~คุณสมศรี ศิระวัฒนานนท์ ผู้บริหารเหมืองหินศิลาชัยเจริญ เพื่อนนักธุรกิจ แขกผู้มีเกียรติ บุคคลที่เคารพรักนับถือ เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ สำหรับการฉลองอายุวัฒนมงคลครบ 55 ปี 30 ธันวาคม พ.ศ 2567 ของ"เสี่ยบี"หรือ คุณอธิปพัฒน์ อริยพิทักษ์เดชา ผู้บริหารเหมืองหินแอมเพอริชสโตน พร้อมกับ"เจ้ณี"คุณเบญญารัศมิ์ ชุณห์วิสิทธิกิจ พร้อมกับครอบครัวได้จัดงานบุญประจำปี และฉลองครบรอบวันคล้ายวันเกิด "เสี่ยบี"ขึ้นต่อเนื่องทุกปี และทุกๆปีก็จะมีการแจกข้าวสาร หรือถุงยังชีพและมอบเงินให้คนพิการติดเตียงที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ให้กับญาติคนพิการหรือผู้ดูแลเพื่อแบ่งเบาภาระ ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สำหรับในวันนี้ทาง"เสี่ยบี"ได้ทำการบริจาค ข้าวสาร 30 ตัน บรรจุถุงๆละ 5 กิโลกรัม เป็นจำนวน 6,000 ถุง มอบเงิน 39 ซองๆละ 3,000 บาท มอบให้กับญาติผู้ป่วยติดเตียงที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ในเขตพื้นที่ตำบลหน้าพระลานและบริเวณรอบเหมืองหิน
"เสี่ยบี"ได้กล่าวเล่าเรื่องราวในอดีตกับพี่น้องประชาชนที่มารับมอบข้าวสารในครั้งนี้ว่า คุณแม่ที่ให้กำเนิดและให้การศึกษาผมมาคือคุณแม่บุญส่ง แซ่ลิ้ม และแม่ที่ให้ธุรกิจรุ่งเรือง คนๆนั้นเป็นบุคคลสำคัญในชีวิตของผม เมื่ออดีตผมเคยทำธุรกิจ เศรษฐกิจตกต่ำ ธุรกิจโรงโม่หน้าพระลานเจ๊งกันเป็นแถว จากอดีต 70 กว่าโรงโม่เหลือประมาณ 30 กว่าโรง พอเศรษฐกิจพังผมก็ทุกข์หนัก จากธุรกิจในวันนั้น และที่ลืมบุคคลคนนั้นไม่ได้ คือ คุณสุวรรณ~คุณสมศรี ศิระวัฒนานนท์ เจ้าของโรงโม่หินศิลาชัยเจริญ ช่วยฉุดชีวิตเรามายืนอย่างสง่า จนถึงทุกวันนี้ "ซ้อสมศรี"มองเห็นผมเป็น คนดี คนกตัญญู ทำงานตรงไหน ซื่อสัตย์ตรงนั้นให้ดีที่สุด แล้ววันนี้ซ้อสมศรีได้ดึงผมจากความลำบาก ขึ้นมาอย่างสง่าผ่าเผย สามารถมีเงินเป็นพันๆล้านได้ และมาในวันนี้ เพื่อตอบแทนแผ่นดินสำนึกบุญคุณ พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทางบริษัทเอาพื้นดินหากินเลี้ยงครอบครัวและพนักงานมีความเจริญรุ่งเรืองจนถึงวันนี้ จึงตั้งปณิธานว่าจะขอดูแล ค้ำจุนพระพุทธศาสนา การศึกษา ตลอดจนประชาชนบริเวณโดยรอบ หากประชาชนบุคคลใดตกทุกข์ได้ยาก ต้องการความช่วยเหลือ ขอให้ยื่นความประสงค์ติดต่อได้ที่บริษัทฯ ทางบริษัทยินดีช่วยเหลือ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น